ครูโหดฟาดนักเรียนด้วยเหล็กฟุต ญาติแฉเคยใช้ทิ่มตาเด็กเกือบบอด

ครูโหดฟาดนักเรียนด้วยเหล็กฟุต ญาติแฉเคยใช้ทิ่มตาเด็กเกือบบอด

วันที่ 29 ม.ค. ญาติของนักเรียนชั้น ป.3 และ 4แชร์คลิปลงโซเชียล ซึ่งบันทึกภาพบุตรหลานของตนถูกครูคนหนึ่งใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กยาว 1 เมตร ทุบตีที่ขาเต็มแรง ก่อนจะตะโกนต่อว่าเรื่องทำจักรยานของเพื่อนพัง และขู่ว่าหากไม่นำเงินมาซ่อมจะให้ตำรวจจัดการ

ญาติของนักเรียนคนดังกล่าวระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อน 

ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ญาติและผู้ปกครองเด็กไม่เห็นด้วยกับการลงโทษ มองว่าทำเกินกว่าเหตุไป และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของครูคนดังกล่าว เพราะคุณครูท่านนี้เคยก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ครั้งแรกใช้ฟุตเหล็กทิ่มตาเด็กจนเกือบบอด ครั้งที่ 2 ใช้กุญแจทุบที่ศีรษะเด็กจนเป็นแผล และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยญาติของเด็กๆ ทั้งหมดได้เดินทางมารับตัวกลับไปอยู่บ้าน ก่อนที่จะส่งภาพนิ่งและวิดีโอให้กับสื่อมวลชนเพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว หลายครั้งที่เกิดเหตุลักษณะนี้แต่ผู้ปกครองไม่กล้าเอาเรื่อง ทำได้เพียงขอย้ายเด็กไปเรียนที่อื่น

ล่าสุดทางคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนแห่งนี้เตรียมประชุมในเรื่องดังกล่าวเพื่อหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายในวันนี้

วันที่ 28 ม.ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า ยอดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจน้อยกว่าที่ควรจะเป็นของปีนี้ 41 ล้านคน หรืออาจลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่ 38 ล้านคน  แต่เห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี ที่ 30 ล้านคน รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า เมืองใหญ่ทั่วโลกล้วนเผชิญปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก จึงจำเป็นต้องยอมรับสภาพของผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคนไทยเพิ่งตื่นตัว เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และอาจจำเป็นต้องเสนอใช้ มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อประคองสถานการณ์การท่องเที่ยวในปีนี้ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ไทยอาจสูญเสียโอกาสรายได้ไม่น้อยกว่า 2,600 ล้านบาท หากสถานการณ์คลี่คลายได้ ภายใน 1 เดือน

“บิ๊กตู่” งัด ม.44 ระงับจดสิทธิบัตรกัญชา

วันที่ 28 ม.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2562 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ

เสนอกำหนดมาตราด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสนับสนุนและรองรับการอนุญาต ให้นำกัญชามาวิจัยด้านการแพทย์ ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 หัวหน้าคสช.โดยความเห็นชอบจองคสช. จึงมีคำสั่งดังนี้

ข้อ 1 การประดิษฐ์ดังต่อไปนี้ หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ให้ถือเป็นการประดิษฐ์ ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 9 (5) แห่งพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.สิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535

1.1 การประดิษฐ์ที่มีกัญชา หรือสารสกัดธรรมชาติจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ

1.2 สารที่มีโครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกันกับการประดิษฐ์ตาม 1.1

1.3 เกลือ เอสเทอร์ และอีเทอร์ใด ๆ ของสารตาม 1.2

ข้อ 2 สำหรับการประดิษฐ์ตามข้อ 1 แต่ผู้ขอรับสิทธิบัตรไม่ได้ยื่นคำขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการประดิษฐ์ ตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา สั่งยกคำขอรับสิทธิบัตร หรือสั่งให้ผู้ขอรับสิทธิบัตร ตัดข้อถือสิทธิที่เป็นการประดิษฐ์ดังกล่าวภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งของอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ข้อ 3 การควบคุม ผลิต ใช้ จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือครอบครองซึ่งกัญชา หรือกรรมวิธีใดไว้เป็นการเฉพาะ ต้องได้รับการอนุมัติ หรืออนุญาตตามกฎหมาย

ข้อ 4 กรณีที่กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ มีการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้นำกัญชาไปทำการศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทำงกำรแพทย์ได้ ให้ข้อ 1 และ ข้อ 2 ของคำสั่งนี้เป็นอันยกเลิก นับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรที่ได้ยื่นไว้แล้วตามหลักเกณฑ์ และขั้นตอนตามข้อ 1 และ 2 จนกว่าจะเสร็จ

ข้อ 5 ถ้าปรากฎคำขอรับสิทธิบัตร ไม่ชอบด้วยมาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือมาตรา 14 ให้อธิบดีสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตร

ข้อ 6 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับกับคำขอรับสิทธิบัตร ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย

ข้อ 7 ในกรณีที่เห็นสมควร นายกรัฐมนตรี อาจเสนอให้ คสช.แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ข้อ 8 คำสั่งนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป สั่งวันที่ 28 ม.ค. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป